Movie Review and Storyline: Abominable (2019)
Movie Review and Storyline: Abominable (2019)
Blog Article
รีวิวหนัง Abominable (2019) เอเวอเรสต์ มนุษย์หิมะเพื่อนรัก
ข้อมูลหนัง
ประเภทหนัง: อนิเมชัน, ผจญภัย, ตลก, ครอบครัว และแฟนตาซี
ผู้กำกับ: Jill Culton และ Todd Wilderman
นักเขียน: Jill Culton
นักแสดงนำ: Chloe Bennet, Albert Tsai และ Tenzing Norgay Trainor
เรื่องย่อ
Abominable (2019) เอเวอเรสต์ มนุษย์หิมะเพื่อนรัก บอกเล่าเรื่องราวของ เยติสาวที่หลบหนีออกจากที่พักในเซี่ยงไฮ้ของนายเบิร์นนิช นักธุรกิจผู้ร่ำรวยที่วางแผนจะใช้เขาเป็นหลักฐานยืนยันการมีอยู่ของเยติให้โลกรับรู้ ในเวลาเดียวกัน อี้ วัยรุ่นสาวที่อาศัยอยู่กับแม่และไนไน (คุณย่า) ในอพาร์ตเมนต์เล็กๆ กำลังเผชิญกับชีวิตที่ยุ่งเหยิง เธอมัวแต่หมกมุ่นกับสิ่งต่างๆ จนละเลยความสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนๆ ซึ่งรวมถึงเผิง แฟนบาสเก็ตบอลผู้ร่าเริง และจิน ลูกพี่ลูกน้องที่มีทักษะด้านเทคโนโลยีแต่ไม่ค่อยลงรอยกับเธอ แม้อี้จะเป็นนักไวโอลินที่มีพรสวรรค์ แต่เธอปฏิเสธที่จะเล่นต่อหน้าคนอื่นนับตั้งแต่พ่อของเธอซึ่งเป็นนักไวโอลินเช่นกันจากไป ความทรงจำอันเจ็บปวดทำให้เธอเลือกที่จะขึ้นไปบนดาดฟ้าในยามค่ำคืน เล่นบทเพลงที่พ่อเคยสอนให้เธอ แทนที่จะเผยความสามารถของเธอต่อสายตาคนอื่น การเล่นไวโอลินนี้ไม่เพียงเป็นการระลึกถึงพ่อของเธอ แต่ยังเป็นวิธีปลอบประโลมจิตใจของอี้ท่ามกลางชีวิตที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ดูหนังออนไลน์ฟรี เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ภาพคมชัด ระดับ HD ได้แล้ววันนี้
ในเย็นวันหนึ่ง อี้ได้พบกับเยติที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้บ้านต้นไม้บนหลังคาของอพาร์ตเมนต์ของเธอ เธอตั้งชื่อเขาว่า เอเวอเรสต์ พร้อมช่วยซ่อนตัวเขาจากเฮลิคอปเตอร์ของ Burnish Industries อี้เริ่มสร้างสายสัมพันธ์กับเอเวอเรสต์ผ่านการป้อนซาลาเปาและดูแลบาดแผลให้ จนได้รับความไว้วางใจจากเขา เธอได้เรียนรู้ว่าเอเวอเรสต์ต้องการเดินทางกลับบ้านเพื่อพบครอบครัวของเขาบนภูเขาเอเวอเรสต์ ขณะเดียวกันเอเวอเรสต์ก็รับรู้ถึงความฝันของอี้ที่อยากเดินทางข้ามประเทศจีน ความฝันเดียวกับที่พ่อของเธอเคยมี เมื่อกองกำลังของ Burnish Industries เข้ามาใกล้ อี้และเอเวอเรสต์จึงหลบหนีออกไป โดยมีเผิงและจินตามไปอย่างไม่เต็มใจ ทั้งกลุ่มหนีการไล่ล่าจากเฮลิคอปเตอร์ Burnish อย่างหวุดหวิดที่หอไข่มุกตะวันออก และหลบหนีไปบนเรือขนส่งกระป๋องน้ำอัดลมสีแดง
จากนั้น การเดินทางของพวกเขานำไปสู่ท่าเรือทางตอนใต้ของจีน และพวกเขาแอบขึ้นรถบรรทุกเพื่อเดินทางต่อ ทว่าลังที่พวกเขาซ่อนตัวหลุดออกจากรถ ทำให้กลุ่มต้องหลบซ่อนในป่า ที่นั่น เอเวอเรสต์เผยพลังลึกลับของเขาด้วยการกระตุ้นการเติบโตของต้นบลูเบอร์รี่ที่สูงใหญ่จนน่าทึ่ง ในขณะเดียวกัน มิสเตอร์เบิร์นนิชและดร.ซาร่า นักสัตววิทยา ยังคงไล่ล่าเอเวอเรสต์อย่างไม่ลดละ พวกเขาตามรอยจนมาถึงมณฑลเสฉวน ที่ซึ่งเอเวอเรสต์ใช้พลังของเขาทำให้ต้นไม้เติบโตมหาศาล อี้ เอเวอเรสต์ และเผิงอาศัยลมแรงช่วยหลบหนีออกมาได้สำเร็จ แต่จินถูกทิ้งไว้เบื้องหลังและถูกหัวหน้ากองกำลังของ Burnish Industries จับตัวไป
แม้ดร.ซาร่าจะแสดงออกเหมือนผู้เชี่ยวชาญที่ใส่ใจสัตว์ แต่จินค้นพบความจริงว่าเธอกำลังวางแผนขายเอเวอเรสต์เพื่อแสวงหากำไร ขณะเดียวกัน จินสังเกตเห็นด้านที่อ่อนไหวของมิสเตอร์เบิร์นนิช ผู้เคยมีท่าทีเย็นชา โดยเฉพาะความผูกพันกับสัตว์อย่างเจอร์บัวเผือกชื่อดัชเชสที่เป็นสัตว์เลี้ยงของซาร่า จินสามารถหลบหนีออกจากค่ายของพวกเขาและมุ่งหน้าไล่ตามเพื่อนๆ ด้วยความมุ่งมั่น ในเวลาเดียวกัน อี้ เอเวอเรสต์ และเผิงเดินทางถึงทะเลทรายโกบี พวกเขาผูกมิตรกับเต่าขนาดใหญ่ที่ชื่นชอบกิ่งไม้ยักษ์ที่เอเวอเรสต์สร้างขึ้น จากนั้นพวกเขามุ่งหน้าสู่เมืองริมแม่น้ำเหลือง ซึ่งพวกเขาถูกล้อมโดย Burnish Industries เผิงช่วยพวกเขาหลบหนีโดยปล่อยจามรีให้วิ่งแตกตื่น สุดท้าย ด้วยความช่วยเหลือของจิน พวกเขาสามารถหนีข้ามแม่น้ำเหลืองไปยังทุ่งดอกไม้สีเหลือง เอเวอเรสต์ใช้พลังวิเศษของเขาทำให้ดอกไม้เคลื่อนไหวเป็นระลอกคลื่นเพื่อสร้างระยะห่างจากผู้ไล่ล่า
ระหว่างการเดินทาง อี้เริ่มตระหนักว่าการผจญภัยครั้งนี้เป็นการเติมเต็มความฝันของพ่อเธอ เมื่อพวกเขามาถึงเทือกเขาหิมาลัย กลุ่มต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังของ Burnish Industries ที่ปิดกั้นสะพานทั้งสองด้าน อย่างไรก็ตาม เบิร์นนิชเปลี่ยนใจหลังจากเห็นเอเวอเรสต์ปกป้องเด็กๆ เขาย้อนคิดถึงเยติตัวเมียที่เขาเคยพบในอดีต ซึ่งเคยทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องลูก แต่ซาร่าไม่หยุด เธอทรยศเบิร์นนิชและฉีดยาสลบใส่เอเวอเรสต์และเด็กๆ อี้พยายามต่อสู้เพื่อปกป้องเอเวอเรสต์ แต่ถูกซาร่าผลักตกสะพาน เธอรอดชีวิตด้วยการจับเชือกไว้ได้ และใช้ไวโอลินที่เอเวอเรสต์ซ่อมแซมด้วยเวทมนตร์เรียกพลังธรรมชาติเพื่อช่วยเอเวอเรสต์ฟื้นคืนพลังอีกครั้ง เอเวอเรสต์หลุดจากกรง และซาร่าที่คลั่งไคล้ทำให้เกิดหิมะถล่มที่พาเธอและลูกน้องตกหน้าผาเสียชีวิต
ในที่สุด เบิร์นนิชเลือกช่วยเหลือกลุ่มเพื่อนมนุษย์และปกปิดการมีอยู่ของเยติ อี้ เผิง จิน และเอเวอเรสต์เดินทางต่อไปจนถึงภูเขาเอเวอเรสต์ พวกเขาส่งเอเวอเรสต์คืนสู่อ้อมกอดของครอบครัวเขาอีกครั้ง เมื่อกลับถึงเซี่ยงไฮ้ด้วยความช่วยเหลือจากเบิร์นนิช อี้เริ่มใช้เวลาร่วมกับแม่ ยาย และเพื่อนๆ อย่างเผิงและจินมากขึ้น เธอได้เรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับคนรอบตัวอีกครั้ง พร้อมเก็บเรื่องราวการผจญภัยสุดประทับใจไว้ในความทรงจำ
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์
Abominable (2019) เอเวอเรสต์ มนุษย์หิมะเพื่อนรัก มีเสน่ห์ในภาพที่งดงาม เช่น ฉากดอกไม้ที่เคลื่อนไหวอย่างพลิ้วไหวและดอกแดนดิไลออนขนาดมหึมา แต่กลับขาดเอกลักษณ์ที่จะทำให้โดดเด่นจากหนังแอนิเมชันเรื่องอื่นๆ ที่ครอบคลุมเรื่องราวในลักษณะคล้ายกัน หนังเรื่องนี้เป็นผลงานร่วมระหว่าง DreamWorks Animation และ Pearl Studio ของจีน โดยมุ่งเน้นการดึงดูดผู้ชมในระดับนานาชาติ จนมีการปรับแต่งเนื้อหาให้เรียบง่ายเกินไป ความหวานและความเรียบง่ายของหนังอาจทำให้รู้สึกน่ารัก แต่ขณะเดียวกันก็อาจน่าเบื่อสำหรับเด็กๆ ที่ต้องการความตื่นเต้นและแปลกใหม่มากกว่านี้
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยเยติขี้เล่นที่หลบหนีจากการถูกกักขังในเมืองใหญ่ของจีน และไปโผล่บนดาดฟ้าของ Yi (รับบทโดย Chloe Bennet) เด็กสาวที่มุ่งมั่นทำงานพิเศษเพื่อเก็บเงินทำตามแผนการเดินทางข้ามประเทศที่เธอเคยฝันไว้กับพ่อผู้ล่วงลับของเธอ เมื่อพบเยติบาดเจ็บ เธอตั้งชื่อให้มันว่า เอเวอเรสต์ และตัดสินใจช่วยพาสิ่งมีชีวิตนี้เดินทางกลับบ้านบนเทือกเขาหิมาลัย พร้อมกับ Peng (Albert Tsai) เด็กน้อยที่ซุกซน และ Jin (Tenzing Norgay Trainor) ผู้มีบุคลิกมั่นใจ แม้จะมีฉากการผจญภัยที่หลากหลาย แต่บทหนังกลับทำออกมาได้อย่างเรียบง่ายจนเกินไป ราวกับเป็นผลผลิตจากสูตรสำเร็จที่รวบรวมจังหวะของแอนิเมชันยอดนิยมอย่าง How to Train Your Dragon, Kung Fu Panda และ Smallfoot มาผสมกันเพื่อสร้างผลงานที่ ปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดการถกเถียงใดๆ ในเชิงเนื้อหา
บทพูดของตัวละครส่วนใหญ่เน้นการบอกเล่าถึงสิ่งที่ต้องทำหรือสิ่งที่สำคัญในชีวิต โดยไม่มีการแสดงออกถึงความรู้สึกหรือการพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้ง บทสนทนาไม่ได้สร้างเสียงหัวเราะหรือความอบอุ่นที่คาดหวังจากแอนิเมชันประเภทนี้ แม้ว่าจะมีโอกาสมากมายที่เรื่องราวจะสามารถเติมเต็มความมหัศจรรย์หรือความอบอุ่นแบบงานของ Hayao Miyazaki แต่กลับเลือกที่จะดำเนินเรื่องไปในลักษณะที่คาดเดาได้ง่าย ในแง่การนำเสนอ แม้ภาพจะงดงามและแสดงออกถึงความร่วมมือระหว่างวัฒนธรรม แต่ Abominable กลับพลาดโอกาสที่จะเป็นแอนิเมชันที่มีพลังและสร้างแรงบันดาลใจมากกว่านี้ สำหรับผู้ชมที่คาดหวังการเดินทางที่เต็มไปด้วยความประทับใจและอารมณ์ขัน นี่อาจไม่ใช่หนังที่ตอบโจทย์ในแบบที่หวังไว้
Abominable (2019) เอเวอเรสต์ มนุษย์หิมะเพื่อนรัก เปล่งประกายที่สุดเมื่อปล่อยให้ภาพและเสียงดนตรีขับเคลื่อนเรื่องราว โดยไม่พึ่งพาบทสนทนา ฉากที่เอเวอเรสต์ใช้พลังวิเศษในการสร้างผลกระทบต่อธรรมชาติ เช่น ลูกบลูเบอร์รี่ยักษ์ที่กลิ้งไล่ตัวละครลงเนินเขา หรือดอกไม้สีเหลืองที่พลิ้วไหวราวกับโบกมือส่งพวกเขาเดินทางต่อไป ล้วนเต็มไปด้วยเสน่ห์และชีวิตชีวา อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือฉากที่ตัวละครเดินทางไปถึงพระพุทธรูปเล่อซานยักษ์ในมณฑลเสฉวน แม้ว่าการเลือกใช้เพลง Fix You ของ Coldplay ในฉากนี้จะดูไม่เหมาะสม แต่ก็ยังคงสร้างความประทับใจด้วยภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ
หนังเรื่องนี้ยังนำเสนอในรูปแบบของโรดมูวีที่พาผู้ชมเดินทางข้ามภูมิประเทศอันหลากหลายของจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในแอนิเมชันสำหรับผู้ชมชาวอเมริกัน ความหลากหลายของทัศนียภาพ เช่น ทุ่งดอกไม้ ภูเขาสูง หรือเมืองเล็กๆ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับการเดินทาง อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวหันกลับไปเน้นที่ตัวละครและพล็อตที่คาดเดาได้ง่าย ความมหัศจรรย์ที่เคยสร้างไว้กลับค่อยๆ เลือนหายไป
ในภาพรวม Abominable (2019) เอเวอเรสต์ มนุษย์หิมะเพื่อนรัก พยายามอย่างเต็มที่ที่จะสะท้อนบุคลิกของเอเวอเรสต์ ผู้ซึ่งน่ารัก อ่อนหวาน และมีเสน่ห์ในบางครั้ง แต่ในทางกลับกัน หนังกลับถูกมองว่าเป็นผลงานที่ขาดความลึกซึ้งทางอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์ ราวกับถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองเป้าหมายเชิงพาณิชย์มากกว่าการส่งมอบประสบการณ์ทางศิลปะที่แท้จริง ความพยายามที่จะครอบครองส่วนหนึ่งของโลกแอนิเมชันที่ดูเหมือนยังไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งทำให้ผลงานชิ้นนี้ไม่สามารถก้าวข้ามขอบเขตของความธรรมดาได้อย่างแท้จริง ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ 2umv.com โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องสมัครสมาชิกให้ยุ่งยาก ได้แล้ววันนี้
#Abominable #เอเวอเรสต์ #มนุษย์หิมะเพื่อนรัก #ดูหนังออนไลน์ #ดูหนัง #หนังออนไลน์ #ดูหนังออนไลน์ฟรี #หนังฟรี #หนังใหม่ #ดูหนังใหม่ #ดูหนังฟรี #ดูหนัง2024 #หนังใหม่2024 #หนังฟรี2024 #ดูหนังใหม่2024 #ดูหนังออนไลน์2024 #ดูหนังnetflix #ดูหนังจีน #ดูหนังเกาหลี #ดูหนังไทย #ดูหนังฝรั่ง #2umv #รีวิวหนัง #MovieReview #MovieSpoilers
กลับด้านบน Report this page